วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556

คลับลดความอ้วน : ลาบเส้นบุก เมนูลดอ้วน อิ่มท้องได้สารอาหาร ได้พลังงานพอเหมาะ




ลาบเส้นบุก เมนูลดอ้วน อิ่มท้องได้สารอาหาร ได้พลังงานพอเหมาะ
เมนูนี้อร่อยค่ะ เป็นเมนูพื้นๆทำง่ายวิธีการไม่ซับซ้อน เหมาะมาดช่วงควบคุมน้ำหนัก เเถมลดความเบื่อหน่ายที่จะทานอาหารจืดๆได้ เเต่ก็ต้องควบคุมความเผ็ดเเบบพอดีนะคะ ไม่ควรทานเผ็ดมากเกินไป

Chicken-mince-Salad



ส่วนผสมเเละเครื่องปรุง
เตรียม เส้นบุก เสริฟนึงทานจนอิ่มใช้เเค่ครึ่งถุง
ผงลาบเเล้วเเต่นะคะ ถ้าที่บ้าจะทำข้าวคั่วเองเเละมีเครื่องสด ไปทางนั้นเลยดีกว่าเเซบกว่า ถ้าไม่มีไปซูเปอร์หาผงลาบมาใกล้เคียงค่ะ
มะนาวเพิ่มดีกรีความเปรี้ยว
น้ำปลา
หอมเเดงซอย
ใบสะระแหน่ เเบ่งเป็น2 เเบบ เเบบเป็นใบๆ เเละเเบบซอยหยาบ จำนวนมากหน่อย
พริกบ่น (ถ้าชอบเผ็ด)
ไก่สับไม่เอาหนัง ประมาณ 100 กรัม
น้ำตาลเล็กน้อยเเค่ตัดรส

วิธีการ
นำเส้นเเละไก่สับลงกะทะหรือหม้อมือน้อยๆ
เติมน้ำเล็กน้อยรวนจนไก่สุกให้มีน้ำคลุกคลิกเพราะเดี๋ยวข้าวคั่วจะดูดน้ำอีก เเล้วนำขึ้น
ยำรวมกับหอมเเดง ผงลาบ หรือเครื่องลาบ (พริกบ่น, น้ำปลา, น้ำมะนาว, น้ำตาลเล็กน้อยตัดรสให้กลมกล่อม )
ใบสะระแหน่ครึ่งนึงส่วนที่ซอยหยาบๆใส่ลงไป
เคล้าให้เข้ากัน ตักขึ้นเเล้วโรสระเน่ที่เหลือเป็นเสร็จกรรมวิธี ตกเเต่งโรยหน้าให้สวยงาม เวลาทานทานคู่กับผักสดเเช่เย็น อย่าง ผักกาดเเก้ว ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว เเละ เเตงกวา
ประโยชน์ของพริกเมื่อรับประทาน
ในช่วงแรกๆ ควรรับประทานแต่น้อย และค่อยๆ เพิ่มขนาด จะทำให้ทางเดินอาหารค่อยๆ ปรับตัวรับความเผ็ดร้อนและระคายเคืองของพริก โดยการเพิ่มการหลั่งสารเมือกและสร้างเนื้อเยื่อบุผิวกระเพาะอาหารและลำไส้เพิ่มขึ้น ผลการวิจัยเป็นจำนวนไม่น้อย พบว่าเมื่อรับประทานอย่างถูกวิธี พริกจะช่วยให้เกิดการสมานแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ เมื่อรับประทานพริกในช่วงแรก จะทำให้เกิดความเผ็ดร้อนบริเวณริมฝีปากและในช่องปาก แต่ต่อมาจะทำให้รู้สึกว่าร่างกายอบอุ่นสบาย ซึ่งความเผ็ดร้อนนี้ทำให้ลดลงได้มากด้วยอาหารที่มีมะเขือเทศและอาหารที่มี casein เช่น นม นอกจากนี้พริกยังช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหาร โดยปกติแล้วขนาดรับประทานของพริกในผู้ใหญ่คือ 0.53 กรัม ในสหรัฐอเมริกา มีพริกจำหน่ายในรูป capsule ทั้งที่มีพริกอย่างเดียว หรือ พริกรวมกับสมุนไพรอื่นๆ เช่น ขิง กระเทียม เป็นต้น ในประเทศไทย มีทิงเจอร์พริก (tincture capsicum)

ในพริกป่นมีทั้งรสและกลิ่นเผ็ดร้อนที่ช่วยให้เกิดอาการตื่นตัว ซึ่งส่วนประกอบในพริกที่ทำเรารู้สึกอย่างนั้นก็คือ capsaicin
มีการศึกษาพบว่า capsaicin ในพริกมีความสามารถในการกำจัดเซลล์มะเร็ง โดยไม่ทำลายเซลล์ดีภายในร่างกาย ซึ่งอีกไม่นานจะมีการแนะนำให้ใช้ capsaicin ในการรักษามะเร็ง นับเป็นการบำบัดแบบใหม่ที่มีทิศทางที่ดีในอนาคต
พริกป่นมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ของกล้ามเนื้อหลังได้ดี คุณสามารถบำบัดอาการปวดเมื่อย ได้ที่บ้านด้วยการใช้พริกป่นใส่ลงในอาหารที่รับประทาน
พริกป่นช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติหลังจากมื้ออาหารที่คุณตัดลดคาร์โบไฮเดรตลงไป เพราะฉะนั้นจึงมีการศึกษาเพื่อจะใช้พริกป่นมาช่วยในการบำบัดรักษาโรคอ้วนอยู่ในขณะนี้

ส่วนผสมอันดับหนึ่งที่ช่วยในการทำความสะอาด หรือดีท็อกซ์ร่างกายก็คือพริกป่น เพราะในพริกป่นมีสารที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการทำความสะอาดร่างกายด้วยตัวเอง ทั้งยังช่วยยับยั้งเมือกที่จับอยู่ภายในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ด้วยอย่างนี้ต้องหาอาหารแซ่บด้วยพริกป่น มารับประทาน กันแล้วละค่ะ ใครที่ไม่ทานรสเผ็ดต้องลองทานบ้างนะค่ะ อ่านแล้วน่าจะป้องกันได้ ต้องลองทานรสแซบกันบ้างนะคะ

คลับลดความอ้วน : เส้นบุกต้มยำแห้ง จัดจ้านเเบบไทย



เส้นบุกต้มยำแห้ง จัดจ้านเเบบไทย เมนูลดอ้วนที่หนีความจำเจ
เมนูเส้นบุกที่ดัดแปลงจากเมนูเดิมๆอย่างยำ หรือสุกี้ นำมาเสริมรสให้จัดจ้านอย่างไทย ในแบบต้มยำสไตร์ หลีกหนี้ความจำเจเเต่ก็ยังได้เมนูพลังานต่ำไว้เป็นอาวุธในการควบคุมน้ำหนัก

เครื่องปรุงและวัตถุดิบหาไม่ยากค่ะ
ข่าซอยเป็นชิ้นบางๆ
ตะใคร้ตัดเป็นท่อนเเล้วบุเบาให้พอเเตก
ใบมะกรูดฉีก
หอมเเดงซอยหยาบๆ
พริกบุพอเเตกจำนวนตามประการณ์
เส้นบุกรสผสมสาหร่าย 1 จานใช้ครึ่งถุง
เนื้ออกไก่ ประมาณ 50 กรัม
เห็ด 3 อย่างตามชอบ
มะเขือเทศสีดา 2 ลูกหั่นเป็นชิ้นพอคำ
ผงต้มยำ (เพราะมันน้อยกว่าการใส่น้ำพริกเผา)เล็กน้อยเอากลิ่น
น้ำปลา
น้ำตาลเล็กน้อย
มะนาว

วิธีการ
ตั้งน้ำให้เดือดนำส่วนผสมทั้งหมดลงไปลวก โดยการใส่เนื้อไก่ลงไปก่อนตามด้วย ข่า ตะใคร้ ใบมะกรู หอมเเดง เห็ด เเละ เส้นบุก พอทุกอย่างสุก เเละผักสลดเเล้วให้ยกขึ้นรินน้ำออกให้สะเด็ดน้ำ
นำเครื่องต่างๆที่ลวกเเล้วมาคลุกดับพริกบุก ผงต้มยำ เเละ มะเขือเทศ  เติมน้ำปลา น้ำตาล เเละน้ำมะนาว เติมรส เปรียว เค็มหวานเบาๆ คลุกเบาๆ จัดใส่จานโรยด้วย ต้นหอมผักชี ค่ะ


เมนูนี้รวมๆเเล้วให้พลังงานไม่เกิน 200 kcal ค่ะ

คลับลดความอ้วน : “บุก” ช่วยลดความอ้วน



       เมื่อได้ยินคำว่า “บุก” หลายคนคงจะเห็นหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่ออกมาว่าจำหน่ายกันอย่างมากมาย เพราะบุกนั้นสามารถ ช่วยลดความอ้วนได้ 
       แต่ทว่า บุกนั้นจะ ช่วยลดความอ้วน ได้อย่างไรบางเรามีดูสรรพคุณและประโยชน์ของบุกกันเลยค่ะ ถ้าอยากจะลดความอ้วนแล้วล่ะก็ต้องคิดถึงบุกนะค่ะ
บุก คือ พืชในตระกูลเดียวกันกับบอน (Araceae) เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอวบ ไม่มีแก่น สูง 3 – 6 ฟุต มีดอกสีม่วงเหมือนดอกหน้าวัวเป็นพืชท้องถิ่นของ ประเทศญี่ปุ่น จีน ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดจีน ในประเทศไทยพบบุกมากในจังหวัด กำแพงเพชร เชียงใหม่ พะเยา กาญจนบุรี
       นิยมรับประทานส่วนหัวของบุกเพราะมีสารสำคัญตัวหนึ่งซึ่งเรียกว่า กลูโคแมนแนนเป็นคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งชนิดหนึ่งซึ่งประกอบด้วย กลูโคส แมโนส ฟรุคโทส มีลักษณะข้น ๆ เหนียว ๆ
       ก่อนจะนำมาบริโภคจะต้องผ่านกรรมวิธีที่มากมายในการกำจัดยางและล้างพิษที่อาจจะทำให้คันได้ นำมาขายเป็นเส้น ๆ หรือเป็นชิ้น ๆ ซึ่งนำไปประกอบอาหารแทนเนื้อสัตว์ได้ เพราะไม่มีรสชาติจึงสามารถปรุงรสได้ตามความชอบ บางครั้งอาจนำมาขายในลักษณะผงชงเป็นเครื่องดื่มรสต่าง ๆ
ความเหนียวหนืดของกลูโคแมนแนนจะชะลอการดูดซึมของกลูโคสจากทางเดินอาหารไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ช่วยถ่วงท้องให้อิ่มเร็ว การบริโภคอาหารอื่น ๆ จึงน้อยลงโดยปริยายทำให้นิยมมากในวงการผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักใยและกากอาหารจะทำให้ลำไส้บีบตัวมากขึ้นทำให้การขับถ่ายเป็นไปได้ดี
การควบคุมหรือลดน้ำหนักด้วยการบริโภคบุกพร้อมกับการรับประทานอาหารอื่น ๆ ครบ 5 หมู่ ไม่มีอันตรายต่อร่างกายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นใยอาหารธรรมชาติไม่ใช่สารเคมีสกัด

       ดูเมนูอาหารที่ทำจากเส้นบุกที่ให้พลังงานต่ำเหมาะกับผู้ที่ต้องการจะควบคุมหรือลดน้ำหนัก
ใครที่อยากลดน้ำหนักลองหันมาทานบุกกันดูได้นะคะ

Credit: Lisa

วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

คลับลดความอ้วน : เส้นบุกผัดกิมจิ จัดจ้านสไตล์เกาหลี



       เส้นบุกเป็นวัตถุดิบที่นำมาเเปรรูปได้หลากหลายเมนูแถมให้พลังต่ำ ในสูตรนี้เป็นการผสมผสานของดีมีประโยชน์ของคนเกาหลีเค้าคือ กิมจิ

       กิมจิ เป็นอาหารขึ้นชื่อของเกาหลีติดอันดับ 1 ใน 5 ของอาหารเพื่อสุขภาพ
ที่ดีที่สุดในโลก มีมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ เกิดจากการนำเอาผักต่างๆเช่นกุยช่าย ผักกาดขาว หัวไชเท้า พริกแดง หัวหอม และเนื้อสัตว์จำพวก กุ้ง ปู ปลา และอาหารทะเลต่างๆ ขิง เกลือ และน้ำตาล มาหมักรวมกัน 

       ซึ่งคนเกาหลีถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการรับประทานอาหารโดยชาวเกาหลีจะ นำกิมจิไปปรุงเป็นส่วนประกอบของอาหารด้วย เช่น ข้าวต้ม ซุป ข้าวผัด สตู บะหมี่ ไปจนถึงพิซซา และเบอร์เกอร์ ดังนั้นไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็จะต้องเอากิมจิติดตัวไปด้วย จึงทำให้กิมจิเป็นที่แพร่หลายในต่างแดนอีกด้วย

       กิมจิ จะมีรสเผ็ด เปรี้ยว และมีกลิ่นฉุน แต่ประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยในกิมจิจะมีเกลือแร่ วิตามิน และกากใยอาหารมากมาย และมีกรดแลคติกและแบคทีเรียที่มีอยู่ในกระบวนการทำโยเกิร์ต ซึ่งจะช่วยดูแลการทำงานของลำไส้ และสามารถป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ได้เป็นอย่างดี 

       ที่สำคัญไม่ทำให้อ้วน นอกจากนี้กิมจิยังอุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก กรดอะมิโน เบต้าแคโรทีน ก๊าซคาร์บอนแอนตี้ไปโอติก และช่วยให้ระบบการหมุนเวียนโลหิตทำงานเป็นปกติ ทำให้ผิวพรรณสดใสอีกด้วย

ส่วนผสม
  • กิมจิ 1 ทัพพี (60 กรัม) ให้พลังงาน 11 kcal
  • เส้นบุกรสผสมสาหร่าย ครึ่งถุง ให้พลังงาน 0 kcal
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง ให้พลังงาน 80 kcal
  • ลูกชิ้นปลา 10 ลูกเล็กๆ ให้พลังงาน 38 kcal
  • ซีอิ้วขาว
  • น้ำตาลเล็กน้อย
  • พริกไทย
  • น้ำมันถั่วเหลือง 1 ช้อนชา(5 กรัม) 45 kcal

วิธีทำ
        เตรียมกิมจิโดยการหั่นออกให้เป็นชิ้นขนาดพอคำ ล้างเส้นบุก หั่นลูกชิ้นออกเป็นช้ินพอคำ ตั้งกระทะ non stick ใส่น้ำมันถั่วเหลือง ใส่ไข่ลงไป ผัดไข่ให้สุกเป็นสาย ใส่ลูกชิ้นปลา ตามด้วยเส้นบุก เเละ กิมจิ ปรุงรสตามชอบ ระวังเรื่องการเติมรสเค็มหน่อยนะคะเพราะในกิมจิจะมีรสเค็มอยู่เเล้วค่ะ ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จานเเละโรยด้วยพริกไทย เวลาทานจะบีบมะนาวเพิ่มเติมรสชาติได้ค่ะ จานนี้อิ่มได้สบายๆกับพลัังงานประมาณ
200 kcal เท่านั้นค่ะ ลองทำทานกันนะคะ




Credit: thaieditorial.com

คลับลดความอ้วน : โฮมเมด “โอนิกิริ ข้าวกล้องใส้ปลาซาบะย่าง”ทำเองเราเลือกได้

โฮมเมด “โอนิกิริ ข้าวกล้องใส้ปลาซาบะย่าง”ทำเองเราเลือกได้

ประวัติความเป็นมาของเจ้า โอนิกิริ

ในศตวรรษที่ 11 ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ Murasaki Shikibu ได้บันทึกลงในไดอารี่ของเธอ (Murasaki Shikibu Nikki) เกี่ยวกับผู้คนที่ได้รับประทานลูกบอลข้าว สมัยนั้นโอนิกิริถูกเรียกว่า Tonjiki และ มักจะถูกบริโภคเป็นอาหารกลางวันหรือไม่ก็นำไปปิคนิค ช่วงสมัยศตวรรษที่ 17 เหล่าซามูไรได้นำเจ้าลูกบอลข้าวห่อใบไผ่ไปเป็นเสบียงในช่วงสงคราม แต่ความจริงแล้วประวัติความเป็นมาของโอนิกิรินั้น มีมานานกว่ายุคที่ผู้หญิงคนนี้จดบันทึกเสียอีก แต่ช่วงที่โอนิกิริเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากก็คงจะเป็นช่วงยุคนี้แหล่ะค่ะ เมื่อก่อนตอนที่จะกิน ก็จะต้องใช้ช้อนตัดแบ่งกัน แต่พอมาถึงยุคนาระ (Nara) ก็ได้มีการตัดเป็นคำเล็กๆ เพื่อความสะดวกในการรับประทานด้วยค่ะ
ตั้งแต่ สมัยคามาคุระ (Kamakura) จนถึงต้นเอโดะ (Edo) โอนิกิริเป็นอาหารที่เรียกว่า quick meal เพราะมีวิธีการทำที่ง่ายและสะดวก เหล่าพ่อครัวแม่ครัว จึงแค่ผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยไม่ต้องใส่ใจเรื่องการบริการมากนัก ตอนนั้นโอนิกิริเป็นข้าวปั้นธรรมดาที่มีรสเกลือและสาหร่าย จึงไม่แพร่หลายกว้างขวางนัก พอในยุคเกนโรคุ (กลางยุคเอโดะ) จึงมีการทำฟาร์มสาหร่ายเพื่อรองรับปริมาณความต้องการของโอนิกิริที่จะทำขาย ในวงกว้างขึ้น
มีความเชื่อว่าโอนิกิรินั้นไม่สามารถผลิตได้ด้วย เครื่องจักร ถือเป็นเรื่องยากเกินไปในตอนนั้น แต่พอช่วงปี 1980 ก็มีเครื่องมือที่ทำให้โอนิกิริเป็นรูปสามเหลี่ยมถูกสร้างขึ้น ตั้งแต่มีเจ้าเครื่องนี้โอนิกิริก็จะถูกเสิร์ฟพร้อมกับสาหร่ายเลย แต่พอทิ้งไว้สักพักสาหร่ายก็จะเริ่มชื้นและเหนียว ติดหนึบกับตัวข้าว จึงมีการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์โดยแยกสาหร่ายออกจากข้าว พอจะทานค่อยห่อสาหร่ายเข้ากับข้าวปั้น ปัจจุบันคนนิยมทำข้าวปั้น เป็นข้าวห่อกันจากที่บ้าน หรือถ้าอยากจะสะดวกสบายหน่อย ก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้า ทั่วไปที่ขายโอนิกิริค่ะ (Credit: marumura.com)
มาถึงตรงนี้ด้วยความที่ชอบทานมากก็เลยจัดการดัดแปลงซะโดยใช้ข้าวกล้องบ้านเรานี่หล่ะค่ะ วันนี้ผึ้งทำมาเป็นอาหารเช้ามาทานที่ทำงานอยู่ท้องได้ประโยชน์ดีค่ะ
ส่วนผสมและอุปกรณ์
  • ข้าวกล้อง (ลองอ่านประโยชน์ของข้าวกล้อง) หุงให้น้ำมากกว่าปรกตินิดนึง 1 ก้อนใช้ 1 ทัพพี ให้พลังงาน 80 kcal
  • ปลาซาบะย่างกับเกลือขูดเอาเเต่เนื้อเอาก้างกับหนังออก 1 ก้อนใช้ 1 ช้อนโต๊ะประมาณ 15 กรัม ให้พลังงาน 18 kcal
  • เกลือเล็กน้อยชิมเอานะคะให้เค็มอ่อนๆ เพราะปลาเราก็จะออกรสเค็มอยู่แล้วด้วย
  • สาหร่ายโรยข้าว ต่อก้อนใช้ 1 ช้อนโต๊ะ ใหเพลังงาน 20 kcal ใครจะใช้สาหร่ายเเผ่นๆมาตัดก็ได้ค่ะ
  • อ่างน้ำใส่น้ำ เพื่อจุมให้มือเปียกข้างจะได้ไม่ติด
  • ถ้วยใบใหญ่สำหรับผสมข้าว เเละทัพพีตักข้าว
วิธีการทำ
เมื่อข้าวสุกรอให้เย็นตัวลงซักหน่อยพอที่จะจับได้ไม่ร้อนนัก ตักข้าวใส่ถ้วยผสมนำทัพพีเกลี่ยข้าวให้เเผ่ออกเพื่อระบายความร้อน เติมเกลือเเล้วคลุกเคล้า ค่อยๆเติมทีละน้อยนะคะ เเล้วตะล่อมๆไป เมื่อชิมรสได้ที่ก็ นำมือจุมในน้ำพอเปียก นำข้าวขึ้นมาประมาณกำมือนึงปั้นให้เป็นก้อนแน่น ใช้นิ้วโป้งกดตรงกลางให้เป็นหลุม ตักใส้ปลาซาบะที่เราขูดไว้ใส่ลงไปแแล้วนำข้าวหยิบมือนึงปิดให้เต็มแล้วปั้นอัดข้าวให้เเน่นเป็นรูป 3 เหลี่ยม นำสาหร่ายโรยข้าวตักใส่จานเเบนๆเเล้วนำข้าวที่ปั้นแล้วคลุกกับสาหร่าย ใส่กล่อง Bento น้อยๆเตรียมไปทานได้แล้วค่ะ สำหรับคนที่ใช้สาหร่ายแผ่นเเนะนำให้เเยกสาหร่ายใส่ถุงไว้ต่างหากนะคะ เวลาจะทานค่อยนำมาห่อ สาหร่ายจะได้ไม่นิ่มไปเสียก่อนค่ะ
โอนิกิริทำเองก้อนนี้ 1 ก้อนขนาด 90 กรัม ให้พลังงาน 118 kcal ใครทานเป็นมื้อเที่ยงก็จัดเลย 2 ก้อนยังไหว เเล้วอย่าลืมหาผลไม้ทานด้วยนะคะ จะได้ครบสูตรสุขภาพดี

คลับลดความอ้วน : สลัดไทย-สันในหมูหมัก เมนูไทยประยุกต์ไม่ห่วงอ้วน

สลัดไทย-สันในหมูหมัก เมนูไทยประยุกต์ไม่ห่วงอ้วน
เป็นอีก 1 เมูนูที่ทำง่ายไม่มีกฎเกณฑ์อะไร ทำง่าย ให้พลังงานกำลังดีค่ะ
ส่วนผสมเเละเครื่องปรุง
  • สลัดผักตามใจชอบ จะเป็นผักกาดเเก้ว ผักครอส เรดโอ๊ก กรีนโอ๊ก เเครอท เเตงกว่าเเช่เย็นไว้ ใส่ได้ทุกอย่าง ในส่วนนี้จะให้พลังงานอยู่ไม่เกิน 40 kcal
  • หมูสันใน ไม่ติดมัน ประมาณ 1 อุ้งมือ น้ำหนักประมาณ 60 กรัม หมักกับซอสถั่วเหลือหน่อยๆ พักไว้ 15 นาที ส่วนนี้จะให้พลังงานประมาณ 65 kcal ถ้าจะใส่มากกว่านี้ก็( สันในหมู 100 กรัม จะให้พลังงานเท่ากับ 109 kcal )
น้ำสลัดไทย
  • พริกเเดง
  • กระเทียม
  • รากผักชี (ไม่มีไม่ใส่ได้)
  • น้ำปลา
  • น้ำมะนาว
  • น้ำตาลเล็กน้อย
วิธีการทำ
เพื่อความสะดวกรวดเร็วเราจะนำเข้าไมโครเวฟโดยเติมน้ำลงไปในถ้วยที่เราหมักหมู(ถ้วยเเก้วนะคะ)ปริมาณเเค่เกือบๆท่วมหมูนะคะ จากนั้นปิดฝานำเข้าไมโครเวฟ ไฟเเรงสุด 3 นาที เอาออกมาเช็ค ไม่สุกใส่เพิ่ม อย่าใส่นานจนสุกเกินนะคะ เพราะมันจะเเห้งเเละแข็งเกินไปค่ะ สันในหมูจริงๆสุกง่ายมากค่ะ จากนั้นเตรียมน้ำยำ โดยการโขลกพริก, กระเทียม รากผักชี พอเเหลก เติมรสชาติตามชอบด้วย มะนาว น้ำปลา เเละน้ำตาลเ็กน้อย จากนั้นรินน้ำหมูออกซักหน่อยให้มีน้ำขลุกขลิก ราดน้ำยำลงไปคลุก ชิมรสเเล้วเติมอีกทีได้ค่ะ เคล้าเบาๆพอให้หมูคลายความร้อน ราดลงบนผักสลัดที่เราเตรียมไว้เป็นอันเสร็จ เมนูนี้จะให้พลังงานประมาณ 130 kcal นะคะ เอาไปลองทำดูนะคะ

คลับลดความอ้วน : ยำมั่ว สลัดผลไม้รวม เมนูลดอ้วนที่ไร้กฎเกณฑ์

ยำมั่ว สลัดผลไม้รวม เมนูลดอ้วนที่ไร้กฎเกณฑ์
อีกครั้งที่หลีกหนีความจำเจของการทานผลไม้ ผลไม้ไม่จำเป็นต้องทาน สด หรือทานกับ โยเกิร์ตเท่านั้น เพียงพลิกแพลงหน่อย เมนูผลไม้ก็สามารถนำมาเป็นอาหารหลักหลังออกกำลังกาย เพื่อเรียกกำลังกายได้ดีทีเดียว วันนี้จึงขอเสนอ
เมนู ยำมั่วสลัดผลไม้รวม
เหตุที่ชื่อ “ยำมั่ว” เพราะมันใส่ทุกอย่างรวมๆกัน ไม่มีกฎว่าจะใส่ผลไม้อะไร มีกี่อย่างในตู้เย็นมีอะไรใส่ได้ทั้งหมดค่ะ มันอาจจะดูเยอะไปถ้าหากจะซื้อส่วนของผลไม้ทั้งหมดใหม่ เเต่การซื้อ 1 ครั้งก็สามารถทำกินได้ 3-4 มื้อ เลยทีเดียว
ส่วนผสม 1
  • ผลไม้รวมๆ เป็นอะไรก็ได้ค่ะ องุ่น เเอปเปิ้ล ฝรั่ง เเตงกวา ส้มโอ ชมพู่ สับปะรด เเก้วมังกร ทุกอย่างหั่นเต๋าชิ้นไม่โตมากค่ะ องุ่นดึงก้านออกใส่เป็นลูกหรือหั่นครึ่งก็ได้ค่ะ เพราะเราจะใช้น้ำยำน้อยๆ กะประมาณ อย่างละ 1 อุ้งมือ ส่วนนี้พลังงาน ประมาณ 80 kcal
  • เเครอทขูดฝอย 30 กรัม ส่วนนี้พลังงาน ประมาณ 10 kcal
  • อกไก่ลวก หั่นเต๋า 30 กรัม ส่วนนี้พลังงาน ประมาณ 50 kcal
  • ถั่วลิสงอบ หรือ อัลม่อนอบ ประมาณ 12 เม็ด ส่วนนี้พลังงาน 80 kcal
  • กุ้งเเห้ง คั่วแล้วโขลก ประมาณ 2 ชช ส่วนนี้พลังงาน ประมาณ 10 kcal
  • ผักชีสด 1 ต้น เล็กๆหั้นหยาบๆ ส่วนนี้พลังงาน ประมาณ 5 kcal
ส่วนผสมน้ำยำ ส่วนนี้พลังงานรวม ประมาณ 50 kcal
  • พริกสด
  • กระเทียม
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลมะพร้าว 2 ชช (30 kcal)
  • น้ำสะอาด  2 ชต
  • น้ำมะนาว
วิธีการทำ
ผสมน้ำยำก่อนค่ะ โดยโขลกพริก เเละ กระเทียมหยาบๆ เติมน้ำปลา น้ำสะอาด น้ำตาลมะพร้าวปรุงรสชาติ จากนนั้นนำเข้าไมโครเวฟ 1 นาที โดยคนทุกๆ 30 วินาที เพื่อให้พริกเเละกระเทียมสุก ทิ้งไว้ให้คลายความร้อน
หันมาเตรียม ส่วน ผสม 1 ลงถ้วยยำ เคล้าเบาๆ เเล้วราดด้วยน้ำยำเเละบีบมะนาวลงไปครึ่งลูกเคล้าเบาๆอีกครั้งค่ะ  ชิมรสชาติตามชอบ จากนั้นตักขึ้นได้เลยค่ะ
จานนี้สารอาหารครบถ้วนมากค่ะ ไขมันเเทบไม่มีเลย ได้ประโยชน์ อิ่มท้องเเละถ่ายท้องดีค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารท้องผูก พลังงานรวมของจานนี้ 285 kcal ค่ะ นอกจากนี้ ใครที่จิตตกเรื่องพลังงานมาก จานนี้สามารถลดพลังงานได้อีกนะคะ ถ้าลดผลไม้ลงเเละเติมด้วผักสดๆเเทน


สลัดไทย-สันในหมูหมัก เมนูไทยประยุกต์ไม่ห่วงอ้วน

คลับลดความอ้วน : จัดอาหารตามหลักการ Portion Control

จัดอาหารตามหลักการ Portion Control
หลายคนคงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าโอ้วพลังงาน 400 kcal กว่าเชียวเหรอ สำหรับคนที่กังวลเรื่องพลังงาน เดี๋ยว…..วก่อน โปรดดูที่ประโยชน์ของมัน มื้อนี้เป็นมื้อหลักที่ทาน เเละผึ้งออกำลังกายเป็นประจำ 4 วันต่อสัปดาห์ การรับประทานเเบบนี้มีประโยชน์มากกว่าการกังวลเรื่องปริมาณพลังงาน เพราะยังไงพลังงานที่เห็นในจานนี้เเทบไม่เหลือเก็บ อีกอย่างคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ทั้งโปรตีนไขมันต่ำจากปลา ช่วยเสริมสร้าง เเละ ซ่อมเเซมกล้ามเนื้อ ผักอย่าง ข้าวโพดออ่อน เเละ หน่อไม้ฝรั่งก็มีวิตมินเเละ ประโยชน์มากมาย พลังงานต่ำ ข้าวกล้องข้าวซ้อมมือถูกจำกัดประมาณ อยู่ที่ประมาณ 1 ทัพพี อย่างที่ทราบข้าวซ้อมมือเป็นพลังงานสะอาดที่เราสามารถดึงเอาพลังานไปใช้ได้ทั้งหมด เหมาะมากถ้าออกกำลงกาย เพราะจะได้มีเชื้อเพลิงสะอาดในการเผาผลาญเเละทำกิจกรรมอื่นๆส่วนไขมัน ได้จากเนื้อปลาอยู่เเล้วซึ่งเป็นไขมันดี
สำหรับปลาเราสามารถเลือกปลาทะเลพื้นบ้านเราได้ทั้งหมด เเต่ถ้าให้เเนะนำจะให้เลือกทานปลาทูสดในน่านน้ำไทยเรานี่หล่ะค่ะราคาย่อมเยาว์ ประโยชน์ไม่ต่างจากพี่เเซลม่อนมากนัก เเถมสดเเละใหม่ไม่ต้องโฟรเซนส์ ข้ามน้ำข้ามทะเลมา ส่วนผักนั้นซื้อตามตลาดตอนนี้ราคาพอจับต้องได้ ไม่เเพงอย่างที่คิดค่ะ อะไรถูกกว่าซื้ออันนั้นมาทาน ผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เพราะผักทุกอย่างมีประโยชน์หมด ไม่ว่าจะไฮโซ มิเดี่ยมโซ หรือ จะผักบ้านๆริมรั่วนำมาลวกทาน ไม่ปรุงรสจัดเป็นใช้ได้
อีกอย่างที่สำคัญต้องพยายามปรุงรสน้อยๆ ทานจืดๆบ้างจะได้ ลดทั้งน้ำตาล เกลือได้อีกทางค่ะ ลองทำดูค่ะ ง่ายๆเท่านี้ เรื่องจะลดอ้วน เเล้วยังทานอาหารได้อย่างอร่อยก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็น



คิดจะลดน้ำหนักต้องเเบ่งสัดส่วนบนจานอาหาร


คิดจะลดน้ำหนักต้องเเบ่งสัดส่วนบนจานอาหาร
การเเบ่งสัดส่วนของจานอาหารเเต่ละมื้อให้มีปริมาณของสารอาหารที่เหมาะสมถือว่าเป็นเครื่องมือนึงที่จะทำให้เราทราบได้ว่าเราจะรับประทานอะไรในปริมาณเท่าไหร่ การแบ่งสัดส่วนของจานช่วยให้มื้อาหารเเต่ละมื้อเกิดความสมดุลของสารอาหารเเละพลังงานที่เหมาะสม โดยเราสามารถเริ่มจากการเเบ่งจานอาหารของเราออกเป็น 4 ส่วนย่อยๆดังนี้
  1. 1/2 ส่วน เเรก (50%) หรือ ครึ่งนึงของจานเเนะนำให้เป็นผักเเละผลไม้ โดยไม่ต้องกังวลว่าปริมาณจะเป็นเท่าไหร่ เพียงเเต่ประมาณให้อยู่ในครึ่งนึงของจานก็พอ หรืออาจแบ่งเป็นผลไม้ครึ่งนึงผักครึ่งนึง หรือจะเป็น ผักมากกว่าก็ได้ ผักที่เเนะนำให้มีในมื้ออาหารคือ ผักใบเขียวต่างๆ ผักปรเภทหัว บล็อคโครี่ เเละ ผลไม้ที่ไม่หวานจัด
  2. 1/4 (25%) ต่อมาเป็น คาร์โบไฮเดรตประเถท ธัญพืช ข้าวเเป้งไม่ขัดสี งา ข้าวโอ๊ด เราต้องการ ธัญพืชถึงเเม้ว่าเราจะอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักก็ตาม ดังนั้นปริมาณที่เเนะนำจึงอยู่ที่ 1/4 ส่วนของจานอาหาร อาจจะเป็น ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น มัลติเกรน, เเพนเค้กขนาด เท่าแผ่น DVD, เเครกเกอร์ธัญพืช 5 ชิ้น, 1 ทัพพีของข้าวกล้องข้าวซ้อมมือ
  3. 1/4 (25%) ต่อมาเป็น โปรตีน หรือเนื้อสัตว์ที่ไขมันต่ำ ไม่มีหนัง เนื้อสัตว์ถือว่าเเหล่งโปรตีนที่สำคัญ จึงเเนะนำให้ เติมเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำลงไปในจานอาหาร เนื้อสัตว์ น้ำหนัก 80 กรัม จะมีขนาดประมาณเท่ากับไพ่ 1 สำรับ เนื้อปลา เนื้ออกไก่ไม่มีหนัง ถือว่าเป็นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำกว่าเนื้อวัว เเละเนื้อเเดง นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มโปรตีนจากเเหล่งอื่นๆ อย่าง ไข่ต้ม, คอทเทจชีส, โยเกิร์ต, นมไขมันต่ำ, นมถั่วเหลือ, เต้าหู้ เเละ ถั่วชนิดต่างๆได้ด้วย
  4. ส่วนเล็กๆสุดท้ายเป็นส่วนของไขมัน เนย เเละน้ำมัน เเนะนำให้เติมหรือใช้ได้ประมาณ 1 ช้อนชา เเต่ไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ะค่ะจะเหมาะสมที่สุด ขนาดเนยประมาณ 1 ชต จะมีขนาดเท่า เหรียญ 10 บาทค่ะ
เพียงง่ายๆเท่านี้คุณก็สามารถมีมื้ออาหารสุขภาพ ที่ช่วยให้คุณ มีสุขภาพที่ดี เเละ ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักได้อย่างไม่ยากเย็นเเล้วค่ะ

Credit: bebetterhealth

คลับลดความอ้วน : จานเขา จานเรา สั่งเติมของดี ลดใส่ของอ้วน ” ต้มจืดไข่น้ำ” จากร้านตามสั่ง

จานเขา จานเรา สั่งเติมของดี ลดใส่ของอ้วน ” ต้มจืดไข่น้ำ” จากร้านตามสั่ง
เที่ยงๆทุกคนก็คงจะหนีไม่พ้นร้านอาหารตามสั่งเป็นเเน่ เเฟนๆหลายคนบ่นว่าเเม่ค้าร้านตามสั่งหลายครั้งที่ยุ่ง ไม่มีเวลาจึงปฏิเสธจะทำเมนูสุขภาพให้เรา วันนี้มีตัวอย่างการสั่งเมนูง่ายๆให้กลายเป็นเมนูสุขภาพยามเที่ยง เมนูนั้นคือ ต้มจืดไข่น้ำ
ไข่น้ำเมนูนี้ถ้าสั่งจากร้านอาหารตามสั่ง หลายคนคงเข็ดขยาด กับความมันเพราะต้องนำไข่มาเจียวเสียก่อน เเต่ถ้าหากลองคิดดีๆว่าพื้นเพของอาหารจานนี้จริงๆก็ไม่ต่างอะไรกับต้มจืดธรรมดาที่ใส่หมูสับ, ผัก เเละไข่ ดังนั้นอยากจะเสนอวิธีการให้เราเลือกที่จะสั่งเมนูนี้กับร้านตามสั่งที่เเม่ค้าสบายใจเเละเราได้ลดพลังงานไปด้วย
ง่ายๆเพียงเเค่ สั่งต้มจืดหมูสับผักกาดขาวใส่ไข่ ไม่ส่กระเทียมเจียว กับเเม่ค้าร้านตามสั่ง ก็สามารถลดพลังงานต้มจืดไข่น้ำเดิมๆลงได้เกินครึ่ง เเละถ้าอยากให้อยู่ท้องก็อาจจะทานพร้อมข้าวซัก 1 ทัพพี ได้ 1 อิ่มกำลังดี
ต้มจืดไข่น้ำปรกตินั้นจะมีพลังงานอยู่ที่ประมาณ 350 kcal เเต่การสั่งเเบบใหม่จะทำให้พลังงงานลดลงหลือเเค่ 150 kcal เท่านั้น รวมข้าวอีกซักหน่อย 80 kcal เราก็จะได้มื้อเที่ยงสุขภาพจากร้านตามสั่งที่ให้พลังงานเพียง 230 kcal เห็นไหมคะ เเค่เลือกวิธีการปรุงเเละสั่งให้เหมาะสม เราเองก็คุมอาหารให้ได้พลังงานอย่างพอเหมาะโดยไม่ต้องกังวลว่าจะทานอะไรเมื่อไปร้านตามสั่งอีกต่อไป เเถมเเม่ค้าเองก็ทำง่ายไม่อิดออดอีกด้วย

คลับลดความอ้วน : จานของเขา จานของเรา เพิ่มของดีลดของอ้วน “ผัดไทย”

จานของเขา จานของเรา เพิ่มของดีลดของอ้วน “ผัดไทย”
ใครๆก็ทราบว่าผัดไทยถือว่าเป็นอาหารอุดมไปด้วยไขมัน เเต่คุณทราบกันหรือไม่ว่าผัดไทยเป็นเมนูที่เเค่ปรับเปลี่ยนวัตถุดิบ เเละการปรุงเพียงเล็กน้อย ก็สามารถลดพลังงานในผัดไทยจานเดิมให้น้อยลงได้ เพิ่มสิ่งที่มีประโยชน์เข้าไป ก็สามารถแปลงร่างกลายเป็นอาหารสุขภาพได้โดยไม่ยาก เพราะจริงๆเเล้วผัดไทยถือว่าเป็นอาหารจานสุขภาพ ที่อุดมได้วยสารอาหารครบถ้วน ทั้งโปรตีน คาร์โปไฮเดรต เเละผักต่างๆ เพียงเเต่ผัดไทยของร้านทั่วไปมักจะใช้น้ำมันหมู ที่ได้จากการเจียวกากไขมัน หรือหนังหมู เพื่อเพิ่มความหอมอร่อย และการปรุงรสด้วยน้ำตาลให้หวานจนเกินพอดี วันนี้เรามีสูตร ผัดไทยเส้นบุก ที่ให้พลังงานพอเหมาะ ได้สารอาหารและรสชาติไม่เเพ้ผัดไทยตามร้านมากฝากกันค่ะ
วัตถุดิบและอุปกรณ์ สำหรับจาน 400 กรัม
หัวใจของการควบคุมพลังงานอีกอย่างคือ ถ้าเป็นไปได้ พยายาม ชั่งเเละตวง ทุกอย่างที่เราจะนำมาทำอาหารค่ะ เพราะเราจะสามารถเก็บบันทึกได้ว่าอาหารเเต่ละจานที่เราทำให้พลังงานเท่าไหร่
  • เส้นบุกรสผสมสาหร่าย ครึ่งถุง พลังงาน 0 kcal
  • เต้าหู้เเข็งเหลืองหั่นเต๋า 30 กรัม พลังงาน 30 kcal
  • ไข่ไก่ 1 ใบ พลังงาน 80 kcal
  • กุ้งเเห้ง 20 กรัม พลังงาน 50 kcal
  • อกไก่เลาะหนัง 60 กรัม พลังงาน 60 kcal
  • ไชโป้วหวานซอยเต๋าเล็ก 20 กรัม พลังงาน 35 kcal
  • ถั่วลิสงคั่ว บุให้เเตกหยาบๆ 10 กรัม พลังงาน 45 kcal
  • กุยช่าย 40 กรัม ตัดลำต้นไว้เป็นเครื่องเคียง เเละนำใบมาซอยขนาดประมาณ 1.5 นิ้ว พลังงาน 11 kcal
  • ถั่วงอกดิบ 100 กรัม เเยก ลงผัด 3/4 ส่วน เเละอีก 1 ส่วนไว้เป็นเครื่องเคียง พลังงาน 36 kcal
  • หอมเเดงซอยละเอียด 1 หัวขนาดเล็ก พลังงาน 10 kcal
  • มะนาว ครึ่งผล ไว้ปรุงเพิมเติม
  • กระทะ Non Stick
เครื่องปรุง พลังงานส่วนนี้ประมาณ 80 kcal 
  • น้ำมะขามเปียก 1 ข้อนโต๊
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ข้อนโต๊
  • น้ำปลา 1 ข้อนโต๊
  • พริกป่นเล็กน้อย
  • น้ำมันมะกอก 1 ข้อนโต๊
วิธีการทำ 
ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันมะกอก นำอกไก่ลงผัด พร้อมกับ กุ้งเเห้ง เต้าหู้เเข็ง หอมเเดง พอไก่เริ่มสุกให้เติมส่วนผสมของเครื่องปรุงรสได้เเก่ น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ลงไป เติมน้ำลงไปเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ไหม้ จากนั้นนำเส้นบุกลงคลุก พอน้ำเริ่มเเห้งก็ผลักให้ผักไทยเราอยู่อีกด้านของกระทะ เเล้วตอกไข่ลงไป คนพอเเตก นำถั่งงอกเเละกุยช่ายลงคลุกกับเส้นเเละเครื่องเบาๆก่อนจะนำมากลบลงบนไข่ รอให้ไข่สุขสักหน่อยค่ะคนกลับด้าน เเล้วตักใส่จานได้เลยค่ะ เสริฟพร้อมมะนาว ถั่วงอกดิบ เเละกุยช่ายสด หรือจะเติมหัวปลีด้วยก็ได้ค่ะ ใครจะเติมรสเพิ่มได้อีกเล็กน้อยไม่ว่ากัน
พลังงานจาก ถ้าหากเปรียบเทียบผัดไทยเส้นบุกสูตรนี้ ขนาดจานละประมาณ 400 กรัมจะให้พลังงานอยู่ที่ 440 kcal เท่านั้น ในขณะที่ ผัดไทยของร้านทั่วไปจะอยู่ที่ ประมาณ 616  kcal ต่อจานเลยทีเดียว เห็นไหมคะว่าเเค่เราเปลี่ยนเเละเลือกใส่วัตถุดิบที่ดีในจานของเรา เราก็สามารถลดพลังงานเเละเปลี่ยนเมนูจานอ้วนมาเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารเเละควบคุมปริมาณพลังงานได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย
Credit: หมอชาวบ้าน

คลับลดความอ้วน : น้ำพริกปลาทู-โฮลวีตเเร๊พ เมนูลูกครึ่งฉีกกฎไม่จำเจ

น้ำพริกปลาทู-โฮลวีตเเร๊พ เมนูลูกครึ่งฉีกกฎไม่จำเจ
วันนี้ลงสำรวจห้างฝรั่ง เดินผ่านตู้เเช่ที่ขายเเผ่น เเร๊พ หรือที่เรียกว่า เเผ่นเเป้งทอร์ทิยา เป็นเเนว เม็กซิกัน นิดๆ ก็เลยคิดไอเดียจะทำเเร๊พในหลายๆรูปเเบบให้ดูกัน เมนูเเร๊พอย่างฝรั่งก็จะต้องมีของย่าง จะเป็นไก่ เป็นปลา เป็นเนื้อ วางลงบนผักสลัด เเละราด้วย Dressing ซอสชนิดต่างๆ เช่น ซัลซ่าซอส หรือจะเป็นน้ำสลัด เเละอาจมีชีสขูดด้วยในบางเมนู ซึ่งของพวกนั้นก็มีพลังงานอยู่พอสมควร เลยลองคิดดัดเเปลงเมนูมาเป็นอย่างไทยๆ เเละลดปริมาณเเคลอรี่ออกลงซักหน่อยคงถูกใจคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ไม่มากก็น้อย
ส่วนผสม เเละ เครื่องปรุง
  • เเผ่นเเป้งทอร์ทิยาเเบบ โฮลวีต ส่วนนี้พลังงาน 130 kcal ต่อแผ่น
  • ผัดสลัด ครอสเลททัส 5-6 ใบ ส่วนนี้พลังงาน 10 kcal
  • เเครอทขูดฝอยพอประมาณ ส่วนนี้พลังงาน 20 kcal
  • น้ำพริกปลาทูเเห้ง 2 ช้อนโต๊ะ ส่วนนี้พลังงาน 25 kcal (เดี๋ยวครั้งหน้าจะลงวิธีการทำให้นะคะ)
วิธีการ
กรณีใช้กระทะใส่เเผ่นเเป้งวางลงกระทะ ไม่ต้องใส่น้ำมัน ย่างให้สุกร้อนดูให้เเป้งยังนิ่มอยู่ไม่เเห้งกรอบจนเกินไป เมื่อเเผ่นเเป้งสุก เเป้งจะนิ่มลงห่อได้ง่าย กรณีใช้ไมโครเวฟ นำแผ่นเเป้ง วางบนจานเอาพลาสติกเเร๊พคลุม เวฟประมาณ 20 วินาที ก็เป็นใช้ได้ จากนั้นนำผักสลัดมาเรียง เเล้วใส่น้ำพริกปลาทูลงไป เกลี่ยให้ทั่วๆ เวลาทานจะได้โดนน้ำพริกทุกคำ เท่านี้ก็ทานได้เเล้วค่ะ
พลังงานรวมจากจานนี้จะอยู่ที่ 185 kcal ต่อเเท่ง ใครจะทาน 2 – 3 เเท่งก็ไม่ว่ากันค่ะ เเค่กินให้ไม่เกินที่ใช้ก็พอ

คลับลดความอ้วน : Cape Gooseberry “โทงเทงฝรั่ง”หนึ่งในสุดยอดผลไม้กลุ่มเบอร์รี่

Cape Gooseberry “โทงเทงฝรั่ง”หนึ่งในสุดยอดผลไม้กลุ่มเบอร์รี่
เคพกูสเบอรี่  (cape gooseberry)  เป็นผลไม้ที่มีคุณค่า อุดมไปด้วยวิตามิน  C  ที่มีคุณสมบัติป้องกันไข้หวัด (2009)  ภูมิแพ้  วิตามินเอป้องกันอาการตาบอดในที่มืด  ทำให้สายตาดี  ผิวพรรณสวย  ผมสวยดกดำ  เคพกูสเบอรี่ อยู่ในจีนัส (Genus)  Physalis และในตระกูล (Family) Solanaceae พวกตระกูลเดียวกับพริก  มะเขือ  มะเขือเทศ  มันฝรั่ง  ยาสูบ  พิทูเนีย  บางครั้งเรียก Strawberry  tomato, Husk tomato และ  Ground Cherry  มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้แถบประเทศเปรู  ชิลี  จึงมีชื่อวิทยาศาสตร์ตามภูมิศาสตร์กำเนิดว่า Physalis  Peruviana L.  คนไทยเรียกว่า  “โทงเทงฝรั่ง”
นอกจากนี้ เคพกูสเบอรี่ ยังเป็นผลไม้ที่มีโปรตีนสูงอุดมไปด้วย วิตมิน เอ เเละ บี12 เเละยังพบสารแคโรทีนอยด์ที่เป็นสารช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งและโรคหัวใจอีกด้วย

คุณค่าทางอาหารของ เคพกูสเบอรี่

ปริมาณเปรียบเทีนบที่ 100 กรัม
พลังงาน54 kcal
น้ำ85.90%
โปรตีน1.50 กรัม
ไขมัน0.50 กรัม
คาร์โบไฮเดรต11.0 กรัม
ไฟเบอร์0.40 กรัม
ตอนนี้ตามซุเปอร์มาร์เก็ตที่มีขายสินค้าจากโครงการหลวง เเละร้านค้าโครงการหลวงมีจำหน่ายนะคะ ราคาต่อกล่องอยู่ที่ประมาณ 80-100 บาท (จำตัวเลขไม่ได้เเน่นอน)

Credit: สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์, capegooseberry.com